Kidztory Club สถาบันจินตคณิต ศูนย์รวมการเรียนรู้
"ที่นี่! เด็กๆ เค้าคิดเลขเร็ว"
คำกล่าวของไอนสไตน์
“iMAGINATION IS MORE IMPORTANT THAN KNOWLEDGE”
"จินตนาการ สำคัญกว่า ความรู้”
"จินตนาการ สำคัญกว่า ความรู้”
ทำไมจินคณิตจึงน่าสนใจ
จินตคณิตเป็นวิชาที่ใช้ฝึกสมองฝั่งซ้ายและฝั่งขวาให้มีการทำงานอย่างสมดุล (brain balancing) เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุระหว่าง 5-13 ปี การฝึกจินตคณิตจะทำให้เด็กมีสมาธิและกระบวนการคิดที่มีเหตุมีผล
จินตคณิตเป็นวิชาที่ใช้ฝึกสมองฝั่งซ้ายและฝั่งขวาให้มีการทำงานอย่างสมดุล (brain balancing) เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุระหว่าง 5-13 ปี การฝึกจินตคณิตจะทำให้เด็กมีสมาธิและกระบวนการคิดที่มีเหตุมีผล
การคิดแบบจินคณิตและคิดแบบปกติต่างกันอย่างไร
การคิดแบบจินตคณิตนั้นแตกต่างจากการคิดปกติ เพราะการคิดแบบจินตคณิตจะมีการใช้สมองทั้งสองส่วน เช่น เมื่อเด็กนึกถึงค่า 1 โดยหลักการของจินตคณิตแล้วเด็กจะเข้าใจว่ามันคือวัตถุหรือสิ่งของชิ้นเดียวแต่ถูกนำมาเขียนแทนเป็นเลข 1 การคิดทั้งสองแบบนี้ต่างกันดังตาราง
จุดประสงค์ | ส่วนสมองที่ใช้ |
คิดถึงเลข 1 | ฝั่งซ้าย |
คิดว่ามีของ 1 ชิ้น | ฝั่งขวาและซ้าย |
กระบวนการคิดนี้เกิดขึ้นเร็วมากพอ ๆ กัน (ระบบ synapses ระหว่างสมองสองฝั่ง)แต่ปริมาณการใช้พลังงานต่างกันอย่างมาก จากการทดลองทำโจทย์คณิตศาสตร์ของศูนย์ไอแมคโดยให้เด็กจำนวน 10 คนบวกลบเลขง่าย ๆ จำนวน 400 ข้อ แบ่งเด็กเป็น 5 คนแรกที่ใช้วิธีคิดแบบจินคณิตสามารถทำเสร็จทั้งหมดได้ใน 30 นาที แต่และอีก 5 คนใช้วิธีคำนวณทางคณิตศาสตร์ซึ่งผลปรากฏว่าการคำนวณแบบธรรมดาทำได้เพียงเฉลี่ย 163 ข้อเท่านั้นใน 30 นาที และเด็กมีท่าทีเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัดเจน
ปัจจุบันเราใช้สมองฝั่งซ้ายมากจนเกินไปด้วยอัตราส่วน 70:30 ของการใช้สมองซีกขวา ซึ่งทำให้เราสูญเสียพลังงานในการคิดจำนวนมหาศาล น้อง ๆ เคยรู้สึกไหมว่าทำไมถึงรู้สึกเหนื่อยเมื่อกลับมาจากโรงเรียน ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำงานหนักอะไรเลย วิธีลดความเหนื่อยล้าของสมองทำได้ง่าย ๆ คือ การนอนหลับ เพราะการนอนหลับจะเป็นการลดระดับของพลังงานสมองลงและลดการทำงานของสมองทั้งสองฝั่งลงและมีการทำงานใกล้เคียงกันทั้งสองฝั่ง นอกจากนี้อีกวิธีที่ใช้ได้ดีคือการนั่งสมาธิ ซึ่งการฝึกแบบจินตคณิตนี้เองเป็นการฝึกการทำงานสมองเลียนแบบการทำงานงานสมองขณะนอนหลับ ซึ่งการฝึกก็สามารถทำได้ทั่วไปเช่น การใช้จินตนาการรูปร่างวัตถุขึ้นมาเอง การฝึกฝนจากลูกคิด หรือการใช้มือของเราเองก็ง่ายที่สุดอีกวิธีหนึ่ง
การฝึกจินตคณิตช่วยพัฒนาประสาทสัมผัส
การฝึกจินตคณิตนอกจากพัฒนาเรื่องการคิดแล้วยังพัฒนาทักษะด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น เมื่อเด็กฟัง (ทักษะการฟัง)โจทย์จากคุณครู สมองจะทำการแปรความหมายออกมาและทำกระบวนหาคำตอบโดยใช้มือปัดลูกคิดหรือคำนวณจากนิ้วมือ (ฝึกประสาทสัมผัสมือ) กระบวนการจะเกิดขึ้นตามลำดับดังนี้ ฟัง-คิด-ปฏิบัติ เห็นไหมละครับเพียงแค่การดีดลูกคิดหรือนับมือก็สามารถฝึกทักษะประสาทสัมผัสได้ครบทั้งสามแบบ
Certificates ใบรับรองผลการเรียน
“มีใบรับรองผลการเรียนทุกระดับและสามารถโอนไปเรียนต่อได้ทุกสาขาทั่วประเทศ”
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://imacsoroban.com/