วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2555

กดเครื่องคิดเลขทำไม ในเมื่อคิดในใจได้เร็วกว่า


หนังสือเล่มนี้เขียนโดย ดร.อาร์เธอร์ เบนจามิน  แปลโดย พูนลาภ อุทัยเลิศอรุณ และชาครีย์ เพชรพิเชฐเชียร

อ่านในคำนำ ผู้แปลพูดถึงคลิปการแสดงคณิตศาสตร์มายากลของผู้เขียน เลยไปหามาดู โอโห พี่แกท้าผู้ชมมากดเครื่องคิดเลขแข่งกับแกที่คิดเลขในใจ ปรากฏว่าแกชนะทุกคนเลย แล้วตอนท้ายแกยังโชว์การคิดเลขห้าหลักยกกำลังสองด้วย ปรากฎว่าคิดเสร็จในเวลาสิบกว่าวินาที!

ลองไปหาอ่านดูได้นะ หน้าปกประมาณนี้ 

161325


ปกหลังอธิบายไว้ว่า 

หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณสามารถคิดคำนวณแบบเดียวกับอัจฉริยบุคคลทางด้านคณิตศาสตร์ได้ภายเวลาไม่กี่ชั่วโมง 

คุณจะสามารถคิดเลขในใจได้เร็วราวกับกำลังแสดงมายากล ถ้าคุณยังเรียนอยู่ คุณจะสามารถทำข้อสอบเสร็จเร็วและถูกต้องแม่นยำกว่าเพื่อนร่วมชั้น เพราะคุณไม่ต้องคำนวณลงบนกระดาษเลย แต่ถ้าคุณอยู่ในวัยทำงาน คุณจะสามารถกระตุ้นเซลล์สมองไม่ให้ฝ่อ ด้วยการคิดคำนวณทั้งหมดในหัวคุณโดยไม่ต้องหยิบเครื่องคิดเลขออกมาจากลิ้นชักเลย 

หลังจากนำเทคนิคง่าย ๆ ของดร.อาเธอร์ เบนจามิน ไปฝึกฝนอย่างคล่องแคล่ว คุณจะสามารถ... 

• รู้คำตอบของ 47 x 11 ภายใน 1 วินาที 
• รู้คำตอบของ 85ยกกำลังสอง ภายใน 2 วินาที 
• รู้คำตอบของ 623 + 159 ภายใน 3 วินาที 
• รู้คำตอบของ 511 x 7 ภายใน 4 วินาที 
• รู้คำตอบของ 89 x 72 ภายใน 5 วินาที 
• รู้คำตอบของ 4579 / 6 ภายใน 5 วินาที 
• รู้ว่าต้องจ่ายเงินค่าสินค้าทั้งหมดเท่าไหร่ ทั้งที่พนักงานเก็บเงินในซุปเปอร์มาร์เกตยังรวมราคาไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำไป 

และที่สำคัญ คุณสามารถทำทั้งหมดนี้ได้โดยไม่ต้องเขียนลงบนกระดาษหรือกดเครื่องคิดเลขเลยแม้แต่ครั้งเดียว!

ลองกันดูนะครับ

ที่มา  : วิชาการ.คอม

กระแสแอดมิสชั่นส์ ปี 55 สายสังคม-ภาษาต่างประเทศมาแรง

นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยว่าแนวทางการเลือกคณะในการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาในระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษา หรือแอดมิสชั่นส์ ประจำปีการศึกษา 2555 นี้ ตนคิดว่าเด็กจะพิจารณาเลือกคณะจาก 3 ปัจจัย คือ สาขาที่มีชื่อเสียง การมีงานทำ และคะแนนที่เด็กได้ ซึ่งเชื่อว่าคณะแพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และนิติศาสตร์ จะยังติดโผคณะยอดนิยม แม้อาจจะไม่ใช่คณะที่คนเลือกมากที่สุด ส่วนคณะที่เด็กเลือกมากในปีที่ผ่านมาปีนี้อาจจะมีคนเลือกน้อยเพราะคะแนนสูงขึ้น ในขณะที่คณะที่ไม่นิยมในปีที่แล้วคะแนนก็จะต่ำลง เด็กก็อาจจะไปเลือกเรียนคณะนั้นมากขึ้นได้ในปีนี้ ดังนั้น การที่เด็กเลือกสาขาวิชานั้นๆ จำนวนมากไม่ได้เป็นตัวชี้วัดได้เสมอไปว่าสาขานั้นจะเป็นสาขายอดนิยมที่เด็กชอบจริงๆ รวมถึงต้องดูจากตัวเลขการรับตรงของมหาวิทยาลัยต่างๆ ด้วย เช่น นิติศาสตร์ มธ. รับตรงไปแล้ว 300-400 คน ดังนั้น ยอดรับแอดมิสชั่นส์จะน้อยลง เด็กก็อาจจะสมัครน้อยเพราะเห็นว่าเปอร์เซ็นต์แอดมิสชั่นส์ได้ต่ำ ทั้งนี้การเลือกคณะ สาขาวิชาขอให้นักเรียนดูความสามารถตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นเลือกเรียนในสิ่งที่ชอบเพราะที่ผ่านมาบางคนเรียนตามที่พ่อแม่ชอบ แม้สอบเข้าได้แต่สุดท้ายก็เรียนไม่รอดเพราะใจไม่อยากเรียน

"ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา นิติศาสตร์และบัญชี ยังเป็นคณะที่มีคนเลือกเรียนจำนวนมากเพราะจบแล้วมีงานทำแน่นอน และที่สำคัญเงินเดือนเยอะ ดังนั้น สองคณะนี้จึงมีคะแนนสูงมาโดยตลอด ขณะที่แพทย์มีคนเรียนน้อยลง เพราะช่วงหลังมีปัญหาเรื่องความรับผิดชอบของแพทย์ รวมถึงมีกรณีการฟ้องร้องมากประกอบกับคะแนนค่อนข้างสูง เด็กก็อาจจะไปเลือกในสาขาอื่นและมีบางคณะในสายสังคมศาสตร์ที่คนหันมาเรียนมาขึ้น เพราะมีงานทำค่อนข้างแน่นอน เช่น คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ เป็นต้น ส่วนด้านวารสารศาสตร์นั้นได้รับความนิยมเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันคนนิยมน้อยลงเรื่อยๆ" ประธาน ทปอ.กล่าว

ด้านนายสุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานที่ปรึกษา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) กล่าวว่า การเลือกคณะ สาขาวิชาของนักเรียนนั้น ส่วนหนึ่งจะเลือกตามค่านิยมเดิมๆ คือเลือกคณะยอดนิยม อาทิ คณะแพทยศาสตร์ นิติศาสตร์ เป็นต้น แต่ที่น่าจับตามองคือ หลักสูตรด้านภาษาต่างประเทศ และหลักสูตรอาเซียนศึกษา ความสัมพันธ์ต่างประเทศ รัฐศาสตร์การปกครอง ธุรกิจการบิน ซึ่งปีนี้น่าจะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษเพราะประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 ซึ่งเด็กที่เข้าเรียนในปีนี้จะจบการศึกษาในปี 2558 พอดี นอกจากนี้ยังมีความต้องการของตลาดแรงงานอย่างปีที่ผ่านมาเกิดปัญหาขาดแคลนครู ทำให้คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ โดยเฉพาะครูคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และครูประถมวัย ที่สามารถดึงคนเก่งคนดีมาเรียนได้จำนวนมาก

ที่ปรึกษาอธิการบดี มสด.กล่าวต่อว่า นักเรียนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกคณะใดเลยและยังไม่ได้มองถึงอนาคตควรจะต้องเริ่มคิดเพราะเด็กรุ่นนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน รวมทั้งการเข้าร่วมกับประชาคมต่างๆ อีกทั่วโลก ดังนั้นไม่อยากให้เลือกคณะ สาขาวิชาตามรุ่นพี่ ควรต้องมองกระแสปัจจุบันไปถึงอนาคตด้วย ขณะเดียวกันต้องมองที่ความชอบของตัวเองด้วยว่าสามารถเรียนได้หรือไม่ ไม่ใช่ว่าตามกระแสโลกและนึกถึงเฉพาะการมีงานทำเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็จะเรียนอย่างไม่มีความสุข สุดท้ายก็ต้องออกกลางคัน

ที่มา: มติชนรายวัน

คนรุ่นใหม่ตาเสียไวขึ้นเพราะเทคโนโลยี

ผู้อำนวยการของศูนย์วิจัยด้านดวงตา มหาวิทยาลัย Cardiff ได้เปิดเผยถึงจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคตาแห้งที่ปัจจุบันพบมากขึ้นในกลุ่มคนวัยรุ่น หรือคนวัยทำงาน และมีจำนวนเข้าหลักล้านคนอย่างรวดเร็ว พร้อมชี้ว่า สาเหตุหลักที่ทำให้อวัยวะอย่างดวงตาทำงานแย่ลงเป็นเพราะรูปแบบการทำงานสมัยใหม่ที่เน้นทำงานในออฟฟิศ ติดเครื่องปรับอากาศ และต้องจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ เนื่องจากโดยปกติแล้ว มนุษย์จะกระพริบตาประมาณ 12 - 15 ครั้งต่อนาที แต่การใช้งานคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ไอทีจะทำให้การกระพริบตาลดลงเหลือ 7 - 8 ครั้งต่อนาทีเท่านั้น ทางแก้ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองคือ การพักหรือละ สายตาจากหน้าจอบ่อย ๆ

 ที่มา : ASTVผู้จัดการ อังคารที่ 10 เมษายน 2555 http://www.manager.co.th/home/

วิจัยเผย คนการศึกษาต่ำเสี่ยง

งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยโกเทนเบิร์ก ประเทศสวีเดนเผย การใช้เว็บโซเชียลเน็ตเวิร์กชื่อดังอย่างเฟซบุ๊กอาจนำไปสู่การเสพติดการใช้งานได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่มี "การศึกษา-รายได้ต่ำ" การศึกษาครั้งนี้ได้สอบถามความเห็นของกลุ่มผู้ใช้งานอายุระหว่าง 18-73 ปี จำนวน 1,000 คน โดยนักวิจัยพบว่า 85 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มผู้ใช้งานยอมรับว่าตนเองต้องเข้าเฟซบุ๊กทุกวัน และ 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ระบุว่าตนเองล็อกอินเข้าเฟซบุ๊กทันทีหลังจากเปิดคอมพิวเตอร์เลยทีเดียว จากข้อมูลของการศึกษาเผยว่า โดยเฉลี่ยแล้วยูสเซอร์ 1 คนมีการใช้งานเฟซบุ๊กนาน 75 นาทีต่อวัน และจำนวนครั้งที่ยูสเซอร์ 1 คนทำการล็อกอินเข้าเฟซบุ๊กอยู่ที่ 6.1 ครั้งต่อวัน และยังมีผู้ใช้ถึง 26 เปอร์เซ็นต์ที่ยอมรับว่ารู้สึกแย่มากหากไม่สามารถเข้าใช้งานเฟซบุ๊กได้ หากแบ่งเป็นเพศ พบว่าผู้หญิงจะใช้เวลาในเฟซบุ๊กเฉลี่ย 81 นาทีต่อวัน ส่วนผู้ชายจะใช้เฟซบุ๊กเฉลี่ย 64 นาทีต่อวัน ในการศึกษายังพบว่า กลุ่มผู้ใช้งานเฟซบุ๊กที่มีการศึกษาและรายได้ต่ำนั้นใช้งานเฟซบุ๊กนานกว่าผู้ใช้กลุ่มอื่นด้วย ซึ่งในคนกลุ่มนี้พบว่ายิ่งใช้งานนานเท่าไร ก็ยิ่งมีความสุขและพึงพอใจในชีวิตน้อยลงทุกที 


 ที่มา : ASTVผู้จัดการ อังคารที่ 10 เมษายน 2555 http://www.manager.co.th/home/

แอดมิชชั่นส์55สมัครผ่านเว็บได้

ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) และนายก สอท. แถลงข่าวการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาในระบบกลาง (แอดมิชชั่นส์) ประจำปี 2555 ว่ามีนักเรียนสามารถเลือกเข้าศึกษาในคณะ/สาขาวิชาต่างๆ จำนวน 723 คณะ/สาขาวิชา มีจำนวนรหัสทั้งสิ้น 3,598 รหัส รับนักศึกษาได้จำนวน 109,617 คน มีสถาบันอุดมศึกษา 90 แห่ง แบ่งเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่เป็นสมาชิกของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) 24 แห่ง จำนวนรับ 54,206 คน มหาวิทยาลัยราชภัฏ และมหาวิทยาลัยราชมงคล 26 แห่ง จำนวนรับ 20,480 คน สถาบันสมทบ 3 แห่ง จำนวนรับ 156 คน สถาบันอุดมศึกษาเอกชน 37 แห่ง จำนวนรับ 34,775 คน ทั้งนี้ สอท.จำหน่ายระเบียบการรับสมัครระหว่างวันที่ 4-20 เมษายน 2555 รับสมัครระหว่างวันที่ 11-20 เมษายน 2555 ทาง www.cuas.or.th ชำระเงินได้ทางธนาคาร 7 แห่ง ได้แก่ ธ.กรุงเทพ, ธ.กรุงไทย, ธ.กสิกรไทย, ธ.กรุงศรีอยุธยา, ธ.ทหารไทย, ธ.ไทยพาณิชย์, ธ.ซีไอเอ็มบีไทย และที่ทำการไปรษณีย์ไทย ระหว่างวันที่ 11-24 เมษายน 2555 ประกาศผลผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์และตรวจร่างกายทาง www.cuas.or.th วันที่ 9 พฤษภาคม 2555 สอบสัมภาษณ์และตรวจร่างกายในวันที่ 14-16 พฤษภาคม 2555 ณ สถาบันอุดมศึกษาที่สอบได้ ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าศึกษาในวันที่ 24 พฤษภาคม 2555 ทาง www.cuas.or.th ประกาศผลแอดมิชชั่นส์ปี 2555 มีแนวโน้มว่าจะประกาศได้ในวันที่ 7 พฤษภาคม2555 นักเรียนสามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลระหว่างวันที่ 12-25 เมษายน 2555 สอบถามข้อมูลต่างๆ โทร.0-2354-5150-2 ซื้อระเบียบการได้ที่ศูนย์กรุงเทพมหานครต่อศูนย์ภูมิภาค รวม 16 แห่ง ดังนี้ ศูนย์กรุงเทพฯ 3 แห่ง ได้แก่ ม.เกษตรศาสตร์ (มก.) ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) และสอท. ศูนย์ต่างจังหวัด 13 แห่ง ได้แก่ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต, ม.ขอนแก่น, ม.เชียงใหม่, มทส., ม.นเรศวร, ม.บูรพา, ม.มหาสารคาม, ม.วลัยลักษณ์, ม.ศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์, ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่, ม.อุบลราชธานี, ม.นครพนม, ม.พะเยา ดูรายละเอียดได้ www.cuas.or.th